Translation:Charter of the Courts of Justice 2000/10

From Wikisource
Jump to navigation Jump to search

10

[edit]
« sect
chaptoc
sectchap »
มาตรา ๑๐

ในกรณีที่มีการแบ่งส่วนราชการในศาลฎีกา ศาลชั้นอุทธรณ์ หรือศาลชั้นต้น ออกเป็นแผนกหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น ให้มีผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกหรือผู้พิพากษาหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น แผนกหรือหน่วยงานละหนึ่งคน[10.i]

เมื่อตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกหรือผู้พิพากษาหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นตามวรรคหนึ่งว่างลง หรือเมื่อผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้ผู้พิพากษาที่มีอาวุโสสูงสุดในแผนกหรือในหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นนั้นเป็นผู้ทำการแทน ถ้าผู้ที่มีอาวุโสสูงสุดในแผนกหรือในหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นนั้นไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้ผู้พิพากษาที่มีอาวุโสถัดลงมาตามลำดับในแผนกหรือในหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นนั้นเป็นผู้ทำการแทน

ในกรณีที่ไม่มีผู้ทำการแทนตามวรรคสอง ประธานศาลฎีกาจะสั่งให้ผู้พิพากษาคนหนึ่งเป็นผู้ทำการแทนก็ได้

ผู้พิพากษาอาวุโสหรือผู้พิพากษาประจำศาลจะทำการแทนในตำแหน่งตามวรรคหนึ่งไม่ได้

Section 10
  1. In the event that the official service of the Supreme Court of Justice, a court of second instance, or a court of first instance is divided into divisions or agencies called otherwise, there shall be one presiding judge of the division or presiding judge of the agency called otherwise for each division or agency.[10.a]
  2. When the position of presiding judge of a division or presiding judge of an agency called otherwise according to paragraph 1 falls vacant, or when the holder of the said position becomes unable to carry out his official service, the most senior judge in such division or agency called otherwise shall act in such capacity. If the most senior person in the division or agency called otherwise is unable to carry out his official service, the judge next in line of seniority of that division or agency called otherwise shall act.
  3. In the event that there is no person to act in accordance with paragraph 2, the President of the Supreme Court of Justice may order a particular judge to act.
  4. No senior judge[8.1] or junior judge[8.2] shall act in the capacity of any position under paragraph 1.
Original notes
  1.   มาตรา ๑๐ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๘
  1.   Section 10, paragraph 1, has been amended by the Charter of the Courts of Justice Amendment Act (No. 5) 2015.